ค้นหาบทความที่น่าสนใจ

วันพุธที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

กีฬากระโดดน้ำ

กีฬากระโดดน้ำ (diving) 
       เป็นกีฬาที่มีวิธีการกระโดดลงไปในน้ำจากกระดานสปริง หรือที่นิยมเรียกว่า สปริงบอร์ด (springboard) จากชานหรือหอกระโดด ที่เรียกว่า แพล็ตฟอร์ม (platform) ด้วยการเอาศีรษะหรือเท้าลงไปก่อนและมีท่าทางที่มีความยากง่ายแตกต่างกัน

ประวัติ
จากหลักฐานที่พบตั้งแต่ยุคที่มีการแข่งขันกีฬาสมัยโบราณ เชื่อว่าการกระโดดน้ำในสมัยนั้นน่าจะเป็นรากฐานของในปัจจุบัน 
อังกฤษถือเป็นชาติแรกที่จัดการแข่งขันกระโดดน้ำขึ้นอย่างจริงจัง ในปี ค.ศ. 1880 สมัยนั้นยังใช้บ่อน้ำเป็นสถานที่แข่งขันซึ่งมีความลึกไม่มากนัก การแข่งขันเป็นไปอย่างทุลักทุเล นอกจากนักกระโดดน้ำจะต้องรอให้ฝูงเป็ดผ่านไปก่อนจึงจะเริ่มกระโดด บางครั้งนักกระโดดน้ำยังพุ่งทะลวงลึกลงไปจนถึงก้นบ่อและกลับขึ้นมาบนผิวน้ำด้วยเนื้อตัวที่เต็มไปด้วยสวะปฏิกูล รวมทั้งเศษกระป๋องนมเนยพัลวันไปหมด ระยะแรก การกระโดดน้ำยังไม่มีท่าที่พลิกแพลงไปมากกว่าการกระโดดพุ่งเข้าไปข้างหน้าให้ลำตัวตั้งตรงและเอาศีรษะลงน้ำก่อน แต่ต่อมานักยิมนาสติกชาวสวีเดนและเยอรมนีเริ่มนำท่าแปลกๆใหม่ๆเข้ามาใช้ เช้น การตีลังกา (Somersault) หรือการทำเกลียว(Twist) ก่อนที่ลำตัวจะถึงผิวน้ำ ซึ่งท่าเหล่านั้นก็เป็นที่ฮือฮาเรียกความสนใจจากผู้ชมได้เป็นอย่างมาก ทำให้กีฬากระโดดน้ำกลายเป็นกีฬายอดฮิตและเรียกกันติดปาก ตั้งแต่นั้นมาจนถึงต้นศตวรรษที่ 20 ว่ากีฬากระโดดน้ำลีลา (Fancy Diving)
กีฬากระโดดน้ำได้ถูกบรรจุในการแข่งขันในโอลิมปิกฤดูร้อนตั้งแต่ปี ค.ศ. 1904 โดยในระยะแรกจะแข่งขันเฉพาะในนักกระโดดน้ำชาย ต่อมาแพร่หลายไปทั่วโลก เกิดการพัฒนาปรับปรุงท่ากระโดดใหม่ ๆ รวมถึงการนำแพลตฟอร์มและสปริงบอร์โมใช้ในการแข่งขัน จากนั้นในปี ค.ศ. 1912 ผู้หญิงก็มีโอกาสแข่งขันกีฬาชนิดนี้ในที่สุด

ภาพการเคลื่อนไหวขณะกระโดดน้ำ
ที่มา
http://mediavoices.org/wp-content/uploads/2015/06/555.jpg

หลังปี 1924 จนถึงปัจจุบัน การกระโดดน้ำไม่ได้เปลี่ยนรูปแบบมากนัก จนกระทั่งกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน 2000 ที่ซิดนีย์ ได้บรรจุรายการกระโดดน้ำคู่เข้าไปด้วย เรียกว่า ซิงโครไนซ์ ไอวิ่ง ซึ่งมีลักษณะเหมือนการกระโดดน้ำประเภทเดี่ยว ต่างที่นักกระโดดน้ำทั้งสองคนต้องทำทุกอย่างให้พร้อมกัน

ระบบการตัดสิน

กรรมการมีตั้งแต่ 5-7 คน แต่ละคนจะให้คะแนนได้ตั้งแต่ 0 ถึง 10 คะแนน โดยวัดจากความสวยงามของท่วงท่า การจัดระเบียบร่างกาย การกระเซ็นของน้ำ ความยากง่ายของท่ากระโดด ผลคะแนนสูงสุดและต่ำสุดของแต่ละรอบจะถูกตัดออก แล้วนำคะแนนของกรรมการที่เหลือมารวมกัน คูณด้วยคะแนนความยากประจำท่า จนได้คะแนนรวมออกมา ผู้ได้คะแนนรวมสูงสุด หลังการกระโดดครบทุกรอบจะเป็นผู้ชนะ 
                                                                      

ที่มา: https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%81%E0%B8%B5%E0%B8%AC%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%82%E0%B8%94%E0%B8%94%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

โพสต์แนะนำ

เคล็ดลับ การอ่านหนังสือ 2

สวัสดีครับ จากครั้งที่แล้วผมได้นำเคล็ดลับที่ได้จากการอ่านหนังสือที่มีชื่อว่า "เคล็ดลับ เลิกทรมานกับการอ่านหนังสือ" นำมาสรุ...