ค้นหาบทความที่น่าสนใจ

บันทึกการฝึกงานสำรวจ part 2

สวัสดีครับ ครั้งนี้ผมจะมาเล่าประสบการณ์การฝึกงานของผมต่อนะครับ ถึงจะบอกว่าเป็นการฝึกงานแต่เรียกว่าการเรียนภาคสนามมากกว่า จากตอนที่แล้วนั้น บันทึกการฝึกงานสำรวจ part 1

ตอนเย็นของวันแรก พวกเราประชุมกันและสรุปผลการกระทำในวันแรก แต่เนื่องจากพื้นที่อีกฝั่ง(ทางด้านทิศตะวันตกของแผนที่ยังไม่ได้มีการสำรวจ จึงยังไม่ได้แบ่งพื้นที่ทำงานกันครับ ทำได้แค่แบ่งกลุ่มเท่านั้น วันแรกก็จบลงเพียงเท่านั้นครับ

หน้าห้องพักครับ
         พูดถึงห้องพักกันมั่งดีกว่าครับ ในห้องก็มีของใช้ที่จำเป็น พวกหมอน ผ้าห่ม ก็ประมาณนั้นครับ และที่เด่นเตะตาผมเมื่อเปิดประตูเข้าไปก็คือ ไม้กั้นใหญ่ๆ เหมือนไว้กั้นแบ่งเป็นพื้นที่ 2 ส่วนภายในห้อง อ๋อ!! ห้องผมมีเตียงนอน จะพิเศษกว่าห้องของกลุ่มที่อยู่ตึกข้างๆ อยู่หน่อยๆครับ โดยตึกข้างๆแต่ละห้องในตึกจะมีแค่ผ้าปูนอนเฉยๆ แต่ความลำบากมันจะอยู่ที่ตอนซักผ้านี่แหละครับ ไม่มีอุปกรณ์ซักเลย ดีที่ผมเตรียมผงซักฟอกไปด้วย ถึงจะไม่มีกะละมังหรือแปรงซักผ้าแต่ก็ไม่เป็นปัญหาสำหรับผมครับ แต่มันเป็นปัญหาระดับชาติสำหรับเพื่อนร่วมห้องของผมทั้ง 2 คน ที่ซักผ้าไม่เป็นเลย 55555

        สำหรับคนที่เอาเสื้อผ้าไปครบวัน พวกนี้ก็สบายไม่ต้องซักผ้าเลย แต่สัมภาระจะเยอะมาก ส่วนใหญ่จึงมีแต่คนเอาผงซักฟอกไป เพื่อไปซักหรือไปซื้อเอาที่หลังครับ ก็จบเรื่องที่พักเท่านี้แล้วกันครับ มาต่อวันที่สองดีกว่าเนอะ!

         วันที่สอง ตอนเช้าทีมเฉพาะกิจ (ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มเดิมของวันแรก) ออกเดินสำรวจพื้นที่ทางฝั่งตะวันตกของแผนที่ครับ ซึ่งทางตะวันตกของแผนที่นั้นจะเป็นที่ติดกับอ่างเก็บน้ำครับ พื้นที่จึงเป็นเนิน และผา  เนื่องด้วยปีนี้น้ำแล้งครับ มีน้ำน้อย ทำให้พื้นที่ส่วนฝั่งนี้เพิ่มขึ้นครับ (ผมก็มารู้ที่หลังครับว่าในส่วนนั้นไม่ต้องลงไปวัดก็ได้เพราะมันทำการวัดได้ลำบาก ลงไปค่อนข้างยาก ถึงตอนท้ายๆจะพยายามลงไปวัดก็เถอะ แต่สุดท้ายก็ตัดทิ้งอยู่ดี5555) พวกเราเดินสำรวจตั้งแต่เนินเขาในส่วนบ้านพักรับรอง  (บ้านบนเนินเขาข้างๆที่พักของพวกเรา)

ภาพห้องพักครับ
พอเดินขึ้นไปตามทางขึ้นเนินก็พบกับบ้านพัก ด้านหลังเป็นผาหิน ไม่สามารถเดินลงได้ ข้างบ้านเป็นบ่อน้ำใหญ่ๆ น่าจะไว้พักน้ำครับ หลังจากนั้นพวกเราก็เดินลงหาทางที่จะลงไปด้านล่าง

          โดยเดินลงเนิน และเดินไปทางฝั่งตัวเขื่อน เดินไปสักพักก็เจอเข้ากับซอยที่ยังไม่ได้ทำการสำรวจ พอเดินไปสักระยะ ก็พบว่าเป็นเนินลงไปยังด้านล่าง เป็นทางยางมะตอยเก่า เนินทางโค้งลงไปเรื่อยๆ พอเดินลงไป ก็พบว่าพวกเราเดินมาอยู่ใต้ตึกของโรงอาหารครับ

           ตรงนั้น หมาเยอะมาก!! 55555 แต่ค่อนข้างจะเชื่องกว่าที่อยู่ป้อมยามด้านหน้าเยอะเลย พอเดินไปจนสุดทางลาดยาง ปรากฏว่าเป็นทางตัน ด้านขวาของถนนเป็นตึกรูปเหลี่ยมๆตั้งอยู่ในอ่างเก็บน้ำและจะมีสะพานเชื่อมจากถนนไปถึงตัวตึกครับ ส่วนด้านซ้ายพบว่ามีบันไดทางขึ้นรกๆ ยาวขึ้นไปยังด้านบนครับ จะว่าไป ด้านที่เป็นทางตันด้านหน้าจะเป็นป่าทึบๆ เห็นเพื่อนผมบอกว่ามีศาลด้วยครับ ผมลืมบอกไปครับว่าพื้นที่ส่วนใหญ่ระหว่างซอยต่างๆ จะเป็นป่ารกๆ (มันมีต้นไม้ขึ้นเยอะๆจนดูเหมือนจะเป็นอย่างนั้นครับ) และมีบ้านคนอยู่ด้วยให้อารมณ์ประมาณบ้านสวนครับ ถึงจะเหมือนบ้านร้างๆก็เถอะ

          พอเดินขึ้นบันไดเรื่อยๆ (บันไดค่อนยาวพอสมควรเลยครับ จะมีพวกต้นไม้ขึ้นรกๆและมีท่อน้ำยาวต่อไปยังด้านบน) จนสุดก็จะพบกับซอยตันที่เลยที่พักของพวกเราไปหน่อยนิดครับ(ซอยทางเข้าที่พักนั้นแหละครับ) กลายเป็นว่าเดินวนเป็นวงกลมกลับไปยังที่พักครับ เป็นอันจบการเดินสำรวจในตอนเช้าครับ ถือเป็นการสิ้นสุดการสำรวจเขตแดนทั้งหมดคร่าวๆ พร้อมวาดภาพคร่าวๆ ของแผนที่ที่ต้องทำครับ

หลังจากนั้นก็เป็นการแบ่งพื้นที่ว่าแต่ละกลุ่มจะทำส่วนไหนๆ ครับ ตอนนี้ปัญหาแรกเลยก็คือ จะต้องทำวงรอบใหญ่เพื่อให้กลุ่มย่อยๆ ทำงานกันได้ (เอาค่าจากวงรอบใหญ่ไปใช้ทำวงรอบย่อยๆในแต่ละพื้นที่)

***การทำวงรอบ คืออะไร***
การทำวงรอบ คือ กระบวนการที่ใช้ในการวัดความยาวและทิศทางของเส้นตรงมาประกอบกันเป็นวงรอบครับ โดยวัตถุประสงค์ของวงรอบคือเก็บรายละเอียดและกำหนดตำแหน่งต่างๆของสิ่งที่ต้องการจะทำการสำรวจครับ การทำวงรอบก็จะประกอบไปด้วย การรังวัดมุม การรังวัดระยะทาง และการรังวัดค่าระดับ(ระยะแนวดิ่ง) ประมาณนั้นครับ ในที่นี้ใช้การกำหนดค่าของหมุดสำหรับใช้งานในกลุ่มต่างๆเองครับ

*** รูปแผนที่จ้าาา***
ภาพคร่าวๆที่ผมได้วาดไว้ตอนอยู่ค่ายครับ
  
ผมจะอธิบายวิธีทำคร่าวๆ เกี่ยวกับสิ่งที่ผมได้ทำและได้เห็นนะครับ เพื่อความเข้าใจในส่วนต่อไป
สิ่งที่พวกเราทำก็คือ 1.วัดระยะแนวราบ 2.วัดระยะแนวดิ่ง 3.วัดมุม 4.หาเส้นชั้นความสูง 5.เก็บรายละเอียดเช่น พวกอาคาร บ้านเรือนต่างๆ เสาไฟฟ้า ต้นไม้ใหญ่ๆ เป็นต้น
ซึ่งนั้นคือ งานที่แต่ละกลุ่มย่อยแต่ละต้องทำครับ แล้วสุดท้ายจะนำค่าต่างๆมารวมกันเป็นแผนที่ของแต่ละกลุ่ม และจะนำแผนที่ของแต่ละกลุ่มมารวมกันเป็นแผนที่ใหญ่ครับ แต่จะทำได้ก็ต้องโยงค่าต่างๆมาจากค่าที่รู้ครับ ซึ่งค่าที่รู้ (อ.ให้ใช้ค่าที่รู้จากหมุดหน้าโรงอาหาร) ซึ่งจะต้องมีทีมเฉพาะกิจที่ทำหน้าที่ทำวงรอบใหญ่(ถ่ายค่าจากค่าที่รู้ไปยังพื้นที่ที่ต้องการ)ให้ครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมดเพื่อให้กลุ่มย่อยทำงานได้ครับ ก็ประมาณนี้แหละครับ

โดยทีมฉก.(ย่อมาจากทีมเฉพาะกิจ) สมาชิกของทีมนี้จะประกอบไปด้วยตัวแทนสมาชิกของกลุ่มย่อยแต่ละกลุ่ม อย่างน้อย กลุ่มละคนครับ

โดยกลุ่มเฉพาะกิจ จะทำงาน 4 อย่าง 1.วัดมุมทำวงรอบใหญ่ 2.วัดระยะทางของวงรอบใหญ่ 3.วัดระยะแนวดิ่ง(ทำการถ่ายระดับจากค่าที่ถูกต้อง) 4.คำนวณค่าที่วัดได้ (ทีมคำนวณ)

       โดยวงรอบใหญ่ของพวกเราจะใช้ถนนที่ผ่านพื้นที่โดยส่วนใหญ่ จะเป็นรูปสี่เหลี่ยมใหญ่ครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่

        โดยผมเองก็อยู่ในทีมเฉพาะกิจด้วยครับ (ทีมเฉพาะกิจต้องทำงานให้เสร็จก่อนไม่อย่างงั้นทีมอื่นจะทำงานกันไม่ได้ครับ จะมีปัญหาตอนคำนวณค่าต่างๆและตอนรวมแผนที่ใหญ่ครับ)  และส่วนกลุ่มย่อยก็จะเอาค่าที่ได้จากวัดรอบใหญ่ถ่ายค่าต่างๆไปยังพื้นที่ของตนต่อไปครับ

วันที่ 2 ตอนบ่ายแก่ๆ (น่าจะซะ บ่ายสามโมงครับ) รู้สึกจะทำแค่หาที่ตอกหมุด ตอกหมุด และเหมือนจะเริ่มทำการรังวัดระยะทาง

        ตอนแรกเลือกจุดตอกหมุดของวงรอบใหญ่และทำการตอกหมุด(เราเรียกกันว่าหมุดฉก.ย่อมาจากเฉพาะกิจครับ โดยส่วนใหญ่จะใช้หมุดเดิมของรุ่นก่อนๆที่ได้ทำไว้ครับ ก็ประหยัดพวกตะปูอันใหญ่ที่มีจำกัดไปได้ครับ)  ตอกหมุดเสร็จก็ทำต่อเลยครับ

       โดยจะแบ่งทีมฉก.เป็น 2 ทีม ทีม 1 ทำการวัดระยะแนวราบ(วัดระยะทาง) ทีม 2 ถ่ายระดับ (ถ่ายค่าระดับในแนวดิ่งแต่เหมือนจะยังไม่ทำงานในวันที่ 2 สำหรับทีม 2) พวกเราก็ออกไปวัดค่า (ทำได้นิดเดียวก็ต้องเลิกเพราะมืดแล้ว) ผมอยู่ทีม 1 มีปัญหาที่พบของทีม 1 มีอยู่ 2 อย่าง คือ 
       1.อุปกรณ์ที่ใช้วัดระยะทาง (กล้องวัดระยะค่อนข้างหนักและระยะทางที่ต้องไปไกลพอควร) พวกเราแก้ปัญหาด้วยการผลักกันถือด้วยจำนวนคนที่มีกัน 5 คน และมีปัญหาการตั้งกล้องด้วยครับ คือจะมีคนที่อยู่หมู่เรียนเดียวกับผม ยังไม่เคยใช้เครื่องวัดระยะทาง(เรียนแต่ทฤษฎีแต่ไม่ได้เรียนแลปเพราะสอนไม่ทัน) อยู่ในทีมนี้ 3 คน ส่วนอีก 2 ที่อยู่คนละหมู่ คนหนึ่งวัดไม่เป็น ทำให้ 1 เดียวต้องเสียเวลาสอนพวกเราใช้เครื่องพร้อมกับวัดระยะไปด้วยครับ (และคนที่เป็นการเป็นงาน 1 คนทำให้ต้องเดินสั่งการไปๆมาๆบ่อยส่งผลให้เสียเวลา ที่เหลือก็ไปตั้งเป้า 2 คน) ส่วนผมและอีกคนที่ไม่เป็นก็ได้มองดูการทำงานและลองทำดูประกอบความเข้าใจครับ

ยามสายๆของวัน กับแสงแดดจ้า!!

        2.แสงแดด คือบางที่ พระอาทิตย์จะอยู่ทิศเดียวกับทิศที่ส่องกล้องวัดระยะครับ ทำให้มองยากบวกกับระยะทางไกลภาพที่เห็นเลยเล็ก จึงเป็นอุปสรรคทำให้ต้องเปลี่ยนไปทำการรังวัดในส่วนอื่นแทนครับ แต่สุดท้ายก็ต้องเลิกเพราะมองไม่เห็นเป้าที่ต้องส่องครับ

       สุดท้ายค่าที่ได้มาในวันที่ 2 ก็ไม่ได้เอามาใช้ เหมือนเป็นวันสอนการใช้อุปกรณ์สำหรับผม5555      วันที่สองก็จบลงเพียงเท่านั้นครับ

วันที่ 3 ผมออกไปกับทีมฉก.แต่เช้าตรู่ครับ (ตั้งแต่ตีห้าเลยทีเดียวแต่ทำงานกันจริงๆก็เกือบๆหกโมงแล้วแหละครับ) เพราะกลัวว่าจะทำงานล่าช้าจนกลุ่มย่อยจะทำแผนที่ไม่ทันครับ โดยอากาศตอนเช้าของวันที่ 3 จัดว่าดีครับ แดดมาช้า พวกเราเริ่มชินกับอุปกรณ์ทำให้การทำการวัดเร็วขึ้นครับ แถมมีคนมาเพิ่มขึ้นอีกคนหนึ่งครับ ทำให้การเคลื่อนย้ายตำแหน่งไปๆ มาๆ ทำได้เร็วขึ้นครับ ก็ส่งผลให้ทำการรังวัดได้เสร็จตามเป้าหมายครับ โดยเริ่มทำใหม่ตั้งแต่ต้นและเสร็จในช่วงสายๆสำหรับการวัดค่าระยะทางครับ ภาระกิจตอนเช้าของทีม 1 ของฉก.ก็เสร็จไปหนึ่งอย่างและส่งค่าให้ทีมคำนวณต่อไปครับ ส่วนทีม 2 ที่เริ่มทำค่าระดับ และก็เจออุปสรรคครับ เพราะพื้นที่เป็นเนินขึ้น-ลงทั้งนั้นเลยครับ

        หลังจากนั้นก็แยกย้ายกันพักผ่อน เพราะตอนสายๆเกิดไอแดดครับ ซึ่งไอแดดมันจะทำให้เกิดค่าความคลาดเคลื่อน ทำให้ค่าที่วัด ในแต่ละครั้งต่างกันพอสมควร พอเช็คค่าแล้วคลาดเคลื่อนเยอะ ค่าจะผิด สำหรับงานวงรอบใหญ่นั้นต้องการความถูกต้องสูงครับ เพราะต้องเอาค่าที่ได้ไปใช้งานกับกลุ่มย่อยๆทุกกลุ่มเลย

        ส่วนคนอื่นๆที่ไม่ใช่ทีมฉก. ส่วนใหญ่จะไปดูพื้นที่ของกลุ่มย่อยของตนและเริ่มหาที่ตอกหมุดของแต่ละกลุ่มๆครับ ในช่วงเช้า กลุ่มย่อยของผมก็รู้สึกจะออกไปสำรวจพื้นที่เหมือนกันครับ (ได้พื้นที่เนินบ้านพักรับรองครับ) จัดว่าค่อนข้างยากสำหรับพวกเรา (กลุ่มย่อย) ในช่วงบ่ายยันเย็นเข้าใจว่า ส่วนใหญ่จะไปจะเริ่มการรังวัดแล้วครับ และแต่ละกลุ่มส่วนใหญ่ จะเลือกทำการรังวัดค่าระดับในช่วงวันแรกๆครับ (ผมคิดว่ามันน่าจะใช้เวลาเยอะมั้งครับ หลายคนจึงอยากจะรีบๆทำให้เสร็จก่อน) แต่ด้วยอุปกรณ์ที่มีจำกัด ทำให้ความวุ่นวายเริ่มขึ้นครับ เพราะเริ่มจะมีการแย่งชิงอุปกรณ์ขึ้นครับ

อันนี้เป็นเป้ากับขาตั้งครับ อันนี้เป็นของกลุ่มย่อย

          สำหรับกลุ่มย่อยของผมรู้สึกจะเจอปัญหาคือพื้นที่อยู่ในทิศที่ตอนเช้าแดดส่องครับ ค่อนข้างจะมีปัญหามากเลยทีเดียวครับ (วันแรกๆ ผมจะอยู่กับฉก.เสียส่วนใหญ่ครับ)


          ช่วงบ่ายประมาณสักบ่ายสามเห็นจะได้ครับ ผมและทีมฉก. ก็ปฏิบัติการต่อครับ ทีม 1 ทำการวัดมุม ส่วนทีม 2 ยังคงทำการถ่ายระดับต่อ (เกิดความล่าช้าเพราะมีการถ่ายระดับเยอะครับ)

         โดยการวัดมุมนั้นจะทำการวัดเปิดมุมตั้งแต่หมุดแรกที่รู้ค่า(หมุดที่หน้าโรงอาหาร)ออกไปแล้ววัดเปิดมุมไปเรื่อยๆ และวกกลับเข้าที่เดิม ความยากของการรังวัดมุม คือ การตั้งกล้องเหมือนกับกล้องรังวัดระยะ (แต่กล้องวัดระยะมันหนักกว่า) ต้องตั้งให้ตรงหมุดเลยจะช้าหน่อย ปัญหาในส่วนนี้ก็หมดไปเมื่อตั้งกล้องหลายๆครั้งเข้า พวกเราก็เริ่มตั้งได้เร็วขึ้นๆ จนมันไม่เป็นปัญหาอีกต่อไปครับ

         สุดท้ายวันที่ 3 ก็ทำการวัดได้ส่วนหนึ่งครับ ปัญหาส่วนหนึ่งมาจากแสงแดดที่ส่องมาทิศเดียวกับทิศการส่องกล้อง และระยะทางระหว่างเป้ากับกล้องมีระยะไกล ทำให้ค่าเกิดความคลาดเคลื่อนเยอะครับ
สรุปคือทำได้นิดเดียวตะวันก็ตกดินแล้ว5555 เลยต้องทำต่อในวันต่อไปครับ ส่วนทีม2 ก็ยังไม่เสร็จเหมือนกัน  ตอนค่ำมีการประชุมเพื่อแก้ปัญหาเรื่องแย่งอุปกรณ์กัน จริงๆก็มีการแบ่งให้ดูแลให้มีการจดบันทึกว่ากลุ่มใดยืมอะไร อย่างไง โดยจะแบ่งเป็นวันๆ ว่ากลุ่มใดดูแลวันไหนๆ ไปเป็นวันๆ โดยเพิ่มเติมคือทีมฉก.ต้องได้ก่อนเพราะเป็นทีมที่ทำงานส่วนรวมที่ต้องทำเสร็จก่อน

        วันที่ 4  พวกเราออกทำงานตั้งแต่ไก่โห่ ทำต่อจากเมื่อวาน คืองานจริงๆแล้ว ต้องวัดมุมตั้งแต่หน้าประตูทางเข้าที่พักไปเรื่อยๆ แล้ววัดวนกลับมาที่เดิม พร้อมเช็คค่าแต่ละครั้งในการวัดทันที หน้าที่ของผมในวันนี้ รู้สึกจะเป็นคนจดนะ(ถ้าจำไม่ผิด) จากวันก่อนๆเป็นทั้งคนขนของ คนส่องกล้อง อ่านค่า ตั้งกล้อง ตั้งเป้า(ผมจำตำแหน่งของหมุดฉก.ได้ เพราะผมคือคนวาดแผนที่คร่าวๆฉบับแรกให้เพื่อนๆในค่ายดู) หลังจากที่พวกเราผลัดเปลี่ยนกันทำหลายๆตำแหน่ง และแล้วก็ค้นพบคนที่สามารถส่องและอ่านค่าได้อย่างแม่งยำที่สุดในกลุ่มของพวกเราครับ แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นในวันนี้คือ เมื่อวัดมาถึงจุดหนึ่งระยะที่ส่องเกิดไกลเกินไปจนทำให้ส่องไม่เห็นเป้าก็ที่จุดในภาพนั้นแหละครับ

ภาพคนอ่านค่าในทีม 1 ครับ (น่าจะเป็นการวัดระยะครับ)

     เกิดเป็นปัญหาใหญ่เลยครับ สุดท้ายต้องทำการย้ายหมุดใหม่ครับ ก็ค่อนข้างวุ่นอยู่ครับ เพราะย้ายหมุดก็คือต้องทำใหม่ ตั้งแต่วัดค่าระยะ และมุมใหม่ ส่วนค่าระดับรู้สึกจะยังถ่ายระดับไม่ถึงจึงไม่เป็นไร

     ตอนแรกก็แก้แค่วัดมุม กับระยะที่จุดหมุดนั้น สุดท้ายแล้ววัดแก้ที่จุดที่ทำการย้ายหมุด ในช่วงบ่าย ก็เสียเวลาไปๆมาๆ ระหว่างที่พักและบริเวณที่ทำการแก้ไขครับ เพราะมันมีระยะทางที่ค่อนข้างจะไกล (ต้องกลับไปเอากล้องวัดระยะมาทำการวัดใหม่ที่จุดที่ทำการแก้ไข) และหลังจากทำที่จุดแก้เสร็จก็วัดมุมไปเรื่อยๆยันไปจนวนครบรอบพอดีครับ ก็เป็นอันเสร็จ ในตอนเย็นก็ส่งค่าให้กับทีมคำนวณนำค่าที่ได้ไปคำนวณหาความถูกต้อง วันที่ 4 ก็จบลงเท่านี้ครับ

     หลังจากนี้จริงๆ ต้องเป็นการแยกย้ายครับ ไปทำงานกลุ่มย่อยของแต่ละคนครับ ในช่วงดึกๆ ผลการคำนวณจากทีมคำนวณก็ออกมา ผลปรากฏว่าค่าที่วัดได้ยังใช้ไม่ได้ เลยต้องทำใหม่หมดครับ (ของทีม1 ส่วนทีม 2 ยังไม่เสร็จ)

วันที่ 5 กลายเป็นว่าทีม 1 ฉก. ต้องกลับมาทำการวัดค่าระยะ และ ค่ามุมของวงรอบใหญ่ใหม่อีกรอบครับ
 ตอนเช้าทำการวัดระยะครับ ตอนแรกๆ ก็ส่องได้ดีไม่มีปัญหาอยู่หรอกครับ พอสายๆ กล้องเริ่มจะงอแง(แบตจะหมด) จึงรีบวัดกันอย่างเร่งรีบกันเลยทีเดียวครับ คือให้คนตั้งเป้าเคลื่อนที่ทันทีที่วัดเป้านั้นเสร็จ ก็ทำเสร็จประมาณช่วงสายเห็นจะได้ครับ และให้ค่าที่จดบันทึกจากภาคสนามแก่ทีมคำนวณไปคำนวณค่าต่อไปครับ
         ส่วนตอนบ่ายนั้น ผมก็ได้ไปช่วยงานกลุ่มย่อยครับ เพราะเหมือนทีม 2 ฉก.จะมีปัญหาครับ เลยทำการไปเรียกคนเก่งๆไปทำงานด่วน โดยมีสมาชิกกลุ่มย่อยที่ผมอยู่ ก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วยครับ แต่กลุ่มย่อยของผมตอนนั้นก็มีปัญหาเหมือนกันครับ กลายเป็นว่าผมต้องกลับไปช่วยงานกลุ่มย่อย ส่วนอีกคนไปทำงานของทีมเฉพาะกิจแทน (ไปช่วยงานทีม 2) ครับ สลับกัน

        โดยพื้นที่ของกลุ่มของผมจะเป็นเนินทางขึ้นบ้านพักรับรอง(กลุ่มย่อยผมจะเรียกว่ากลุ่ม 8 แล้วกันครับ) การทำงานของกลุ่ม8 ค่อนข้างช้าครับงานจัดว่าหิน เพราะเป็นเนิน 2 ชั้นและคนในกลุ่มก็ไม่มีคนเก่งๆ คือเป็นการรวมตัวกันเฉพาะกิจของคนไม่มีกลุ่ม (ยกเว้นคนที่ไปช่วยทีม 2)

อันนี้ทางลงเนินของกลุ่มย่อยครับ
ตอนผมไปช่วยกลุ่มก็เป็นช่วงที่เริ่มทำการรังวัดระดับได้ระยะหนึ่งแล้ว จึงได้แค่เป็นคนถือไม้สตาฟ ให้คนอื่นอ่านค่าที่วัดได้ เหมือนว่าพวกเขาทำการวัดมุมเสร็จแล้วครับ ตอนแรกๆก็ยังงงๆ กับการกระทำของคนในกลุ่ม (เหมือนผมที่มาทีหลังจะเป็นส่วนเกิน คือมีคนที่พอจะรู้เรื่องบ้างแต่ไม่ค่อยจะฟังใครนอกจากอาจารย์ กับคนที่เก่งกว่าตน ลูกมือจอมขี้เกียจ 2 คน กับคู่แฟนกัน)

คือบรรยากาศมันทำให้ผมรู้สึกว่าตัวผมควรถือไม้สตาฟอยู่ไกลๆให้เพื่อนอ่านดีกว่าอะไรประมาณนั้น   ซึ่งต่างจากตอนทำฉก.มากเลยทีเดียวครับ ผมว่าตอนอยู่ทีมฉก.สนุกกว่าอยู่กลุ่มย่อยเสียอีก คือตอนอยู่ทีม 1 ผมได้ทำทุกๆหน้าที่เพราะว่าระยะทางที่ไกล คนทำงานน้อย ทีมฉก.เป็นที่เรียกได้ว่าเป็นการรวมตัวของพวกคนกะตือรือร้น ต่างจากกลุ่มที่บางคนไม่อยากจะทำ หรือบางคนก็ต้องการที่จะทำคนเดียว ผมว่ามันก็เป็นคนละมุมมองกัน ก็การไปค่ายครั้งนี้ก็ทำให้เห็นอะไรหลายๆอย่าง เหมือนกันครับ ก็อย่างที่อาจารย์หลายๆคนว่าเอาไว้ครับ ว่าคนเราจะได้เรียนรู้กันมากขึ้นเมื่อเราอยู่ด้วยกัน (อยู่ค่าย) ตอนเย็นๆอยู่ๆ ฝนก็ตกลงมา ทำให้ต้องเลิกทำไปในที่สุดครับ วันที่ 5 ก็จบลงครับ

วันที่ 6 วันนี้ตอนเช้าผมไปช่วยงานทีม 1 ครับ เหมือนจะทำใหม่ตั้งแต่แรกเลยเพราะตอนเย็นของวันที่ 5 นั้นฝนตกทำให้ทำการวัดมุมไปได้นิดเดียว เลยจะทำใหม่แต่ต้นไปเลยครับ ผมก็กลับมาหิ้วกล้องวัดมุมอีกครั้งครับ เพราะตอนเช้างานกลุ่มผมทำไม่ได้ครับเพราะอยู่ในทิศทางที่แดดออกพอดีครับ ต้องทำตอนสายๆ ก็วันนี้ก็ไม่มีอะไรเป็นพิเศษครับ วัดมุมใหม่ แต่อุปสรรคของวันนี้คือ แสงแดดครับ แดดออกเร็ว และมีปัญหาเรื่องแย่งหมุดกันครับ(พวกกลุ่มย่อยเริ่มจะทำการวัดมุมกันแล้วครับ) แต่ก็ทำการวัดมุมเสร็จโดยใช้สิทธิของการเป็นฉก. ครับ (งานของส่วนรวมต้องมาก่อนเสมอ) สุดท้ายก็ส่งค่าให้ทีมคำนวณๆค่าในช่วงเกือบๆเที่ยง
อันนี้ไม่เกี่ยวนะ!!

     ส่วนตอนบ่ายผมก็ต้องไปช่วยงานกลุ่มย่อยครับ ก็จัดว่าเหนื่อยครับ ทำ 2 อย่าง  (รู้สึกวันนี้ทีม 2 จะทำงานเสร็จในช่วงเย็นนะ)

ผมว่าผมขอจบเพียงเท่านี้ก่อนแล้วกันครับ จะมาต่อใน ตอนที่ 3 นะครับ สวัสดีครับ  

                                                                               กลับสู่หน้าแรก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

โพสต์แนะนำ

เคล็ดลับ การอ่านหนังสือ 2

สวัสดีครับ จากครั้งที่แล้วผมได้นำเคล็ดลับที่ได้จากการอ่านหนังสือที่มีชื่อว่า "เคล็ดลับ เลิกทรมานกับการอ่านหนังสือ" นำมาสรุ...