ท่ากบหงาย

ท่ากบหงาย (elementary backstoke)
สวัสดีครับ ครั้งที่แล้วได้กล่าวถึงท่าว่ายน้ำที่ไม่ใช่ท่าหลัก (ท่าว่ายตะแคง)ไปครับ วันนี้ผมไปเจออีกท่าหนึ่งที่ไม่ใช่ท่าหลักอีกท่าหนึ่งครับ

        ท่านี้เป็นท่าว่ายสบายๆในวันที่อากาศสดใส ซึ่ง เป็นท่าประหยัดพลังงานของร่างกายดีครับ ไปแบบสบายๆ เรื่อยๆ ซึ่งท่านี้มันก็คือท่ากบดีๆ นี่เอง แต่แค่หงายหน้าขึ้นมา แล้วเคลื่อนที่ไปด้านหลัง!!
มีวิธีปฎิบัติ ดังนี้
   1. ค่อยๆนอนหงายลอยตัว
   2. ใช้แขนค่อยนำแขนขึ้นจากด้านข้างลำตัว เมื่อมาถึงบริเวณใกล้ๆไหล่ ก็ค่อยๆกางแขนออกด้านข้าง      3. เมื่อกางแขนออกจนสุดแล้วให้หุบแขนกลับมาที่ข้างลำตัว
   4. ค่อยๆนำแขนขึ้นมาแล้วก็หุบทำซ้ำเรื่อยๆ
   5. ส่วนขานั้น ก็จะเหมือนการถีบขากบแต่เป็นแบบทำด้านตรงข้าม คือ เริ่มเเรกขาชิดเยียดตรง
   6. งอขาลงด้านล่างพร้อมกับแบะขาออกจากกัน
   7. ถีบขาทั้งสองออกไปด้านข้าง
   8. โดยขาและแขนนั้นจะทำพร้อมกัน
   9. ทำซ้ำ

ถ้ายังนึกกันไม่ออกไปดูวิดิโอประกอบกันเลย!!

ยังไงซะน้ำก็เข้าหน้าแบบกรรเชียงอยู่ดี 5555
ก็เป็นอีกท่าหนึ่งที่น่าสนุกสำหรับการว่ายน้ำนะครับเป็นท่าที่ดูสบายๆ สำหรับการว่ายน้ำเล่นในวันที่อากาศแจ่มใสครับ ครั้งหน้าจะกล่าวถึงเรื่องไรนั้น ติดตามอ่านกันด้วยนะครับ

ท่าว่ายตะแคง

       ครั้งที่แล้วผมได้กล่าวถึงกติกาการแข่งขันว่ายน้ำไปครับ ครั้งนี้จะมานำเสนอท่าว่ายน้ำอีกท่าหนึ่งครับ ซึ่งก่อนหน้านี้ผมได้กล่าวถึงท่าว่ายน้ำท่าหลัก 4 ท่าไป ครับวันนี้ก็เป็นวันที่อากาศไม่ร้อนในตอนเช้าแต่แดดแผ่เผาในช่วงสายๆ ไปยังบ่ายแก่ๆ ตอนเย็นเกือบๆ มืดดันมีลมแรงๆ เหมือนฝนจะตก วันก่อนฝนตกหนักจนน้ำท่วม 555 สงสัยต้องลอกท่อแล้วมั้ง 555 ว่าไปนั้น การว่ายน้ำในวันที่แย่ๆ ก็เป็นการพักผ่อนได้เหมือนกันนะครับ ก็ขอนำเสนอท่าใหม่(สำหรับตัวเองละมั้ง 555)

ท่าว่ายตะแคง (side stoke)
มีวิธีการว่ายดังนี้ครับ

1. เริ่มจากการนอนตะแคงไปทางข้างใดข้างหนึ่ง
2. ว่ายไป โดยให้นำมือข้างหนึ่งวางไปข้างหนึ่งและอีกข้างวางไว้ข้างลำตัว
3. เมื่อว่ายก็นำมือสองข้างมาหากัน(พามาหากัน)
4. ส่วนขานั้นก็ถีบไปด้านข้าง
5. ค่อยๆนำ ขากลับมาชิดกัน เหยียดตรงโดยให้ข้างหนึ่งอยู่บนอีกข้างอยู่ล่าง
6. แขนและขาต้องปฎิบัติพร้อมกัน(ประสานกัน)
7. ทำซ้ำ
ฟังดูแล้วงงๆ แล้วมันว่ายอย่างไรละ

ไปดูวิดีโอประกอบกันเลย

น่าจะว่ายยาก ต้องลองดูครับๆ น่าสนุกดี สำหรับความท้าทายใหม่ๆครับ 555 ลองกันเลยๆ  สำหรับครั้งหน้าจะกล่าวถึงอะไรนั้น ติดตามอ่านกันนะครับ

กติกาการแข่งขันว่ายน้ำ

กติกาการแข่งขันว่ายน้ำ
กีฬาว่ายน้ำนั้นเนื่องจากว่าเป็นกีฬาที่นิยมสำหรับผู้คนจำนวนมากดังนั้น จึงได้มีการจัดการแข่งขันขึ้น เพื่อวัดกันว่าใครเก่งที่สุด และการแข่งขันแน่นอนว่าจะการตัดสินว่าใครเป็นผู้ชนะก็เหมือนกับกีฬาหลายๆชนิดแหละครับ ดังนั้นเราจะมาทำความรู้จักกับกติกาการแข่งขันว่ายน้ำกันครับ ว่ามีอะไรบ้าง

 การตัดสิน
ลำดับที่ผู้แข่งขันทุกคนจะกำหนดโดยการเปรียบเทียบเวลาที่เป็นทางการของแต่ละคนถ้าเวลาทางการเท่ากันหลายๆ คน ก็ให้ลำดับที่เท่ากันในรายการนั้นๆ ได้

 ผู้ควบคุมการแข่งขัน 

1.  ผู้ตัดสินชี้ขาด   1   คน
2.  กรรมการดูฟาวล์   4   คน
3.  ผู้ปล่อยตัว    2   คน
4.  หัวหน้ากรรมการดูการกลับตัว (อยู่คนละด้านของสระ)   2   คน
5.  กรรมการดูการกลับตัว (อยู่คนละด้านของสระ) 2   คน
6.  หัวหน้าผู้บันทึก   1   คน
7.  ผู้บันทึก    1   คน
8.  ผู้รับรายงานตัว   2   คน
9.  กรรมการเชือกฟาวล์   1   คน
10.  ผู้ประกาศ    1   คน

 จากการแข่งขันไม่สามารถใช้อุปกรณ์แบบอัตโนมัติได้ จะต้องมีการแต่ตั้งกรรมการเจ้าหน้าที่เพิ่มขึ้น คือ

ท่าว่ายน้ำ

ท่าว่ายน้ำ

 ครั้งที่แล้วนั้นผมได้กล่าวถึงประวัติของการว่ายน้ำไปครับ ในครั้งนี้จะมากล่าวถึงท่าสำหรับว่ายน้ำนะครับ จริงๆแล้วการว่ายน้ำนั้นมีหลายท่ามากเลยทีเดียวครับ แต่ที่เป็นที่นิยม คนว่ายมากจริงๆ มีอยู่ 4 ท่าด้วยกันครับซึ่งผมขอเรียกว่าเป็นท่าว่ายน้ำหลักแล้วกันนะครับ
  

เป็ด!! อาบน้ำในคลอง!!?

ท่าหลักของการว่ายน้ำจะมีอยู่ 4 ท่าด้วยกันนั้นคือ

1.ท่าฟรีสไตล์ Freestyle

          คำว่า "ฟรีสไตล์" เป็นคำที่เรียกกันติดปากเพราะถ้าจะเรียกให้ถูกต้องจริงๆ ท่านี้จะเรียกว่า "crawl stroke" (อ่านว่า ครอล สโตรค) 

          ที่เรียกกันว่า ฟรีสไตล์ก็เพราะคุณสามารถว่ายท่าอะไรก็ได้ที่คิดว่าเร็วที่สุดเพื่อให้ถึงขอบสระก่อนคนอื่น โดยท่าที่นิยมใช้คือ crawl stroke ทำไมท่านี้จึงมีความเร็วสูงที่สุดน่ะหรือ เป็นเพราะท่านี้เป็นท่าที่ร่างกายมีความเพรียวลู่น้ำมากกว่าท่าอื่น ๆ รวมทั้ง การเคลื่อนไหวเป็นไปอย่างต่อเนื่อง และท่านี้จัดว่าว่ายได้ง่ายและในกระบวนการสอนว่ายน้ำก็จะสอนท่านี้เป็นท่าแรก

ประวัติกีฬาว่ายน้ำ

           ครั้งที่แล้วผมกล่าวถึงการลอยตัวเบื้องต้นกันไปนะครับ ครั้งนี้จะกล่าวถึงประวัติของกีฬาว่ายน้ำกันมั้งนะครับ  ใครเป็นคนคิดค้นท่าว่ายน้ำต่างๆ ความเป็นมาของประวัติว่ายน้ำสากลและประวัติว่ายน้ำของไทย ผมไปเจอบทความเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็เลยนำมาฝากกันครับ

ประวัติว่ายน้ำสากล

            สมัยดึกดำบรรพ์ มนุษย์ที่มีภูมิลำเนาอยู่ตามชายฝั่งทะเล แม่น้ำ ลำคลอง และที่ราบลุ่มต่างๆ เช่น พวกเอสซีเรีย อียิปต์ กรีก และโรมัน มีการฝึกหัดว่ายน้ำกันมาตั้งแต่ก่อนคริสตกาล เนื่องจากมีผู้พบภาพวาดเกี่ยวกับการว่ายน้ำในถ้ำบนภูเขาแถบทะเลทรายลิบยาน 

          การว่ายน้ำในสมัยนั้นเพียงเพื่อให้สามารถว่ายน้ำข้ามไปยังฝั่งตรงข้ามได้ หรือเมื่อเกิดอุทกภัยน้ำท่วมป่า และที่อยู่อาศัย ก็สามารถพาตัวไปในที่น้ำท่วมไม่ถึงได้อย่างปลอดภัย 

 การว่ายน้ำได้มีวิวัฒนาการมาตั้งแต่โบราณจนถึงปัจจุบัน แต่มีหลักฐานบันทึกไว้ไม่นานนัก Ralph Thomas ให้ชื่อแบบว่ายน้ำที่มนุษย์ใช้ว่ายกันมาตั้งแต่เดิมว่า ฮิวแมน สโตร์ก (Human stroke) นอกจากนี้พวกชนชาติสลาฟและพวกสแกนดิเนเวียรู้จักการว่ายน้ำอีกแบบหนึ่ง โดยใช้เท้าเคลื่อนไหวในน้ำคล้ายกบว่ายน้ำ หรือที่เรียกว่าฟล็อกคิก (Flogkick) แต่วิธีการเคลื่อนไหวของท่าแบบนี้จะทำให้ว่ายน้ำได้ไม่เร็วนัก

เบื้องต้น( หายใจ, ลอยตัว)

ว่ายน้ำคืออะไร
    ก่อนอื่นเลยนะครับต้องกล่าวถึงความหมายของการว่ายน้ำก่อนนะครับ
ว่ายน้ำคือกีฬาชนิดหนึ่งที่มีการเคลื่อนไหวร่างกายในน้ำหรือใต้น้ำเพื่อให้เคลื่อนที่ไปด้านหน้า ด้านหลัง หรอด้านข้าง โดยใช้ส่วนต่างๆของร่างกายในการเคลื่อนไหวในน้ำเพื่อให้เคลื่อนไปได้

มาว่ายน้ำกัน!!

ก่อนอื่นเลย ก่อนจะว่ายน้ำ จะมาพูดถึงอุปกรณ์สำหรับว่ายน้ำ คือ

1.ชุดในปัจจุบัน ชุดจะมีทั้งขายเป็นชุดและแยกส่วน (มีให้เลือกตามใจชอบกันเลยทีเดียว)

2.แว่นตากันน้ำ (ก็แล้วแต่คน จะมีทั้งแว่นกันน้ำปกติ และแว่นสายตาสำหรับคนที่มีปัญหาสายตา)

3.หมวกกันน้ำ (สำหรับเรา คิดว่าใส่หรือไม่ใส่หัวก็เปียกอยู่ดีแหละ^^ แต่หมวกนั้นจะช่วยป้องกันผมแห้งและผมเสียที่เกิดจากน้ำในสระนะ)
4.อื่น(!! ก็พวกครีมกันแดด หรือพวกครีมบำรุงผิวเพื่อให้ผิวชุ่มชื่นหรืออื่นๆ เพราะในสระมักจะมีคลอรีนอยู่ในน้ำซึ่งคลอรีนนั้นจะทำให้ผิวของเรานั้นแห้ง ซึ่งเมื่อมาเจอกันแสงแดดในกลางวันจะทำให้ดำได้เนื่องจากผิวที่แห้ง ดังนั้นพวกครีมที่ทำให้ผิวชุ่มชื่นจะช่วยให้ผิวของเราที่แห้ง กลับมาชุ่มชื่นขึ้น )