ค้นหาบทความที่น่าสนใจ

บันทึกการฝึกงานสำรวจ part 3

สวัสดีครับ ช่วงนี้ก็จะเริ่มเข้าหน้าหนาวแล้วสิครับ ฟ้านี่เริ่มมืดเร็วขึ้นเรื่อยๆ เลยช่วงนี้ หน้าฝนกำลังจะผ่านไป วันเวลาผ่านไปเร็วเสียเหลือเกิน!!  บางทีก็อยากจะหยุดวันเวลาเดิมๆไว้ อยากจะอยู่กับมันนานๆ แต่ก็เป็นแค่การฝันลมๆแล้งๆ แหละ ชีวิตมันก็ทำได้เพียงยอมรับกับช่วงเวลาอันเลวร้ายและเดินไปวันข้างหน้าต่อไปครับ!!

ครั้งก่อนนู้น!! ผมเขียนยังเขียนไม่จบเลยเนอะ! ครั้งนี้ผมเลยจะมาเล่าการฝึกงานของผมต่อจากครั้งที่แล้วครับ  หากใครที่ยังไม่เคยอ่าน ก็สามารถเข้าไปอ่านกันได้นะครับ นี่สำหรับอันก่อนๆครับ  บันทึกการฝึกงานสำรวจ part 1    บันทึกการฝึกงานสำรวจ part 2 

       ครั้งก่อน ผมเล่ามาถึงวันที่ 6  เนื่องจากทีม 1 ฉก.(เฉพาะกิจ)ที่ผมอยู่นั้น ทำงานเสร็จในช่วงสายๆของวันนี้ ดังนั้นช่วงต่อจากนี้ผมจะอยู่กับกลุ่มย่อยตลอดครับ ถึงตอนวันท้ายๆจะมีการตั้งทีมฉก.อีกแต่ผมก็ไม่ได้ไปกับเขาแล้ว (ก่อนอื่นต้องอธิบายก่อนนะครับ ว่าผมทำงานอยู่ 2 กลุ่มครับ คือ1.ทีม 1 ฉก.เป็นงานส่วนรวม 2.กลุ่มย่อย เป็นงานที่ต้องรับผิดชอบเดิม เมื่อทำงานส่วนรวมเสร็จผมก็จะไปช่วยกลุ่มย่อยครับ)


นี่คือบ้านที่อยู่บนเนินเป็นพื้นที่ที่กลุ่มย่อยได้รับมอบหมายให้ทำครับ

       จริงๆ พอซะเจ็ดแปดโมง กลุ่มย่อยของผมก็เริ่มออกทำงานกันครับ  การทำงานในวันนี้ จะเป็นการทำใหม่เพราะค่าที่วัดรอบก่อนๆ ผิด เลยต้องเริ่มทำการวัดค่าใหม่แต่แรกเลยครับ ปัญหาที่พบคือ พื้นที่ที่รับผิดชอบเป็นที่เนินเขาครับ ซึ่งการแก้ปัญหาของพวกเราคือการใช้ไม้สตาฟ 4 เมตร แทน 3 เมตรครับ เพื่อลดปัญหาการถ่ายค่าระดับที่มากเกินไป เป็นสาเหตุทำให้เกิดค่าความคลาดเคลื่อนครับ (กลายเป็นว่ากลุ่มของผมทำงานช้าสุด เพราะต้องแก้ตั้งแต่แรกเลยครับ)  ตอนช่วงบ่ายผมก็ได้มาช่วยงาน มีการแบ่งงานกันทำ เป็น 2 กลุ่มย่อยๆอีกครับ กลุ่มหนึ่งวัดมุม กับอีกกลุ่มวัดค่าระดับครับ ทำยันเย็นเลยครับ ถึงจะมีกลุ่มอื่นมาช่วยในช่วงบ่าย แต่สุดท้ายก็ยังไม่เสร็จอยู่ดีครับ (รู้สึกจะทำไล่จากล่างขึ้นไปถึงกลางๆครับ) งานวันที่ 6 ก็จบลงที่ฝนตกตอนเย็น และหิ้วของกลับที่พักหนีฝนครับ 55555


          ซึ่งวันที่6 สำหรับผมแล้ววันนี้เป็นช่วงเวลาที่ไม่ค่อยดีนักของการอยู่ค่าย วันนี้ในตอนเช้าผมพบว่าห้องน้ำ ในห้องที่อยู่นั้นสวมตัน หลังจากกลับมากินข้าวเที่ยง ผมก็โดนย้ายห้อง เพราะส้วมตันครับ ย้ายไปอยู่ถัดไปอีก 2 ห้อง ก็เป็นห้องที่ดีกว่าเก่าในความคิดของผมนะ คือ มีเตียงพอสำหรับ 3 คน ไม่ต้องมีใครต้องไปนอนพื้น และช่วงตอนเย็น หลังจากหนีฝนกลับที่พักซึ่งตกแบบไม่หนักเท่าไหร่นัก แต่พอหลังกินข้าวเย็นเสร็จ ก็เกิดฝนตกหนักขึ้นครับ ความวุ่นวายก็เกิดขึ้นครับ

ภาพข้างๆบ้านบนเนิน
     
         จำได้ว่าตอนนั้น เอาพวกอุปกรณ์ไปเก็บไม่ได้เนื่องจากเวรเฝ้าห้องเก็บอุปกรณ์ เป็นกลุ่มที่อยู่ในพื้นที่ไกลจากที่พัก เลยทำให้กลับมาช้า อุปกรณ์ของหลายๆกลุ่มที่กลับมาก่อนจึงถูกวางไว้หน้าห้องเก็บเป็นส่วนใหญ่ และหลังจากที่เวรห้องเก็บอุปกรณ์มาถึง ฝนก็ตกหนักแล้ว ผมซึ่งกินเสร็จก่อนจึงรีบไปยังตึกหน้าห้องเก็บอุปกรณ์  ตอนนั้นเวรห้องเก็บอุปกรณ์รีบมาเปิดห้อง
       
        พอฝนตกลงมาหนักๆ เม็ดใหญ่ ความชุลมุนจึงเกิดขึ้น หลายๆคนที่อยู่หน้าห้องเก็บช่วยกันยกของหน้าห้องเข้าไปในห้องอย่างรีบร้อน  หลังจากเก็บเสร็จผมก็ได้แต่อยู่ในห้อง(อยู่ถัดจากห้องเก็บไป 4 ห้อง) สมาชิกของกลุ่มย่อยที่กลับมาช้าและติดอยู่ที่ตึกนี้ครับ (ตึกฝั่งห้องเก็บ) มีกลุ่มหนึ่งมาหลบอยู่ห้องของผม เพราะนอกจากห้องเก็บแล้วห้องของผมเป็นอีกห้องในตึกนี้ที่เปิดเข้าไปหลบฝนได้ เพราะเพื่อนๆส่วนใหญ่ติดอยู่ที่โรงอาหารกันหมด หลังจากนั้นไม่นาน ก็เกิดเสียงเอะอะขึ้นที่โรงอาหารครับ ตอนนั้นผมก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะวุ่นอยู่กับการเช็คอุปกรณ์ว่าคืนหมดแล้วหรือเปล่า และกว่าฝนจะหยุดก็ดึกแล้วละครับแต่คืนนั้นลมดี นอนสบาย55555 ผมได้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในตอนเช้าครับ 

น่าจะเป็นช่วงหลังซ่อมหลังคาแล้วครับ

         วันที่ 7 สิ่งที่ผมเห็นในตอนเช้า คือ เต็นท์ข้างๆโรงอาหารอยู่บนหลังคาโรงอาหารครับ คิดว่าน่าจะถูกลมพัดขึ้นมาไปตกบนหลังคา ขาตั้งของเต็นท์เสียบทะลุหลังคาและเพดานของโรงอาหาร เศษกระเบื้องกระจายเต็มพื้น พอเข้าไปโรงอาหารกำลังช่างมารื้อฝ้าเพดานอยู่ ตอนเช้าเลยได้กินข้าวเช้าที่พื้นที่ที่จะทำงานครับ พอไปกินที่นั้นก็เจอกับเจ้าถิ่นเข้าครับ (หมา) เดินมาขอข้าวกิน(คิดว่าน่าจะใช่นะ) พอให้แล้วกินเสร็จก็เดินมาขออีกขอจนหมด สุดท้ายกลายเป็นว่ามันขโมยถุงขยะตอนเผลอ จนต้องตามไปเก็บขยะที่กระจายเรี่ยราดอีก สุดท้ายวันนี้กลุ่มเราก็ช่วยกันวัดค่าระดับก่อนจนเสร็จและกำลังจะมาช่วยกันวัดมุมกันใหม่ซึ่งก็วัดไปได้ส่วนหนึ่งครับแล้วมืด ส่วนผมมีหน้าที่ใหม่คือแบกของขึ้นลงเนิน และเฝ้าของครับ เนื่องจากเจ้าถิ่นคิดว่าของที่ถือๆกันมาคือของกินทั้งหมด(มั้ง) มันจะค่อยๆ เข้ามาใกล้ๆ แล้วพยายามจะคาบพวกกระเป๋า พวกของใช้ไปทุกครั้งที่มีโอกาสเลยครับ (ถึงมันจะค่อนข้างขี้กลัวแต่ก็ไม่ละความพยายาม)

       วันที่ 8 ก็เป็นการทำต่อจากเมื่อวานครับแต่วันพิเศษกว่าวันก่อน คือ มีเพื่อนๆกลุ่มอื่นมาช่วยแต่เช้าเลยเลยทำได้หลายงาน ทั้งวัดมุมที่ไม่เสร็จ และการเก็บรายละเอียดของวัตถุใหญ่ๆในบริเวณนั้นครับ เช่น บ้านพักบนเนิน พวกเสาไฟฟ้า ป้าย บ่อน้ำ เป็นต้นซึ่งก็เยอะพอควรเลยครับ วันนี้เลยดูคึกคักเป็นพิเศษ คนเยอะแบ่งทีมกันทำมันก็น่าจะเร็วอยู่หรอก


อันนี้ทางลงครับ ดูรกๆเนอะ!!

แต่ปัญหาคือกล้องวัดระยะทางครับ เกิดงอแงมีปัญหาในตอนที่จะใช้เป็นปัญหาโลกแตกเลยทีเดียวครับ ในตอนนั้น คือใช้ไม่ได้กลายเป็นว่าต้องทำอย่างอื่นไปก่อน จนสุดท้ายก็เสร็จหมดเหลือวัดระยะทางเท่านั้นครับ กลุ่มอื่นๆก็คิดว่าน่าจะเสร็จหมดแล้วเหลือคำนวณค่าและวาดแผนที่ใหญ่แล้วละครับ ส่วนกลุ่มผมก็ต้องรอต่อไป
   
      วันที่ 9 ปัญหาของกล้องวัดระยะทางก็แก้ได้โดยการที่อาจารย์เอาสายมาต่อกับแบตเตอรี่เล็กๆ เป็นพลังงานให้กับกล้องแทนแบตของกล้องที่เสื่อมคุณภาพ ซึ่งในวันนี้ตอนเช้าพวกเราก็วัดระยะทางเสร็จครับ เพราะระยะทางมีนิดเดียว จึงง่าย ปัญหาคือจะทำงานให้ทันเพื่อนๆกลุ่มอื่นๆอย่างไร พอหลังจากวัดระยะทางเสร็จกลุ่มผมไม่รอช้าไปทำการคำนวณค่าต่างๆเพื่อตรวจสอบความถูกต้องต่อเลย ซึ่งก็คืองานด้านออฟฟิศที่อาจารย์เรียกกัน จากการที่ผมได้เป็นลูกมือของพี่เซียนคีย์บอร์ด(ผมบอกค่า ส่วนรุ่นพี่นั่งพิมพ์) บอกได้เลยว่า อันนี้น่าเบื่อที่สุดจากการได้ทำอะไรหลายๆอย่าง คือนั่งพิมพ์ค่าเยอะมาก ไหนต้องมาตรวจสอบว่าพิมพ์ตรงไหนอีก ซึ่งโปรแกรมเพื่อนแท้อย่าง excal พอค่าเยอะมากๆนี่ก็ดูยากมากๆเลยทีเดียว ผมอยู่กับหน้าคอมยันค่ำ ก็ยังไม่ท่าทีว่าจะเสร็จ

   
อันนี้เป็นการเก็บรายละเอียดบ้านบนเนินครับ

      ด้วยความที่ทั้งกลุ่มมีคอมอยู่เครื่องเดียว แถมต้องวาดแผนที่ 3 แผ่น ในเวลาไม่ถึง 2 วันมันอาจจะไม่เสร็จ(สุดท้ายก็ไม่เสร็จ) คือโอกาสเสร็จทันเวลากลับมันน้อย เพราะกลับวันที่ 11 ของการมาค่ายครับ แน่นอนว่าวันที่ 11 มันคือเวลาเดินทางถึงจะมีเวลาตอนเช้านิดหน่อย แต่ก็เป็นเวลาเก็บของและเตรียมตัวกลับ จึงมีคนเสนอว่าให้วาดโดยวิธีทำมือ กล่าวคือไม่ต้องสนค่าจากคอมพิวเตอร์(ใช้คอมคำนวณค่าพิกัดเพื่อนำมาพล็อกลงกระดาษกราฟใหญ่โดยกราฟจะเหมือนเป็นตารางกริด) แล้วใช้พวกอุปกรณ์เครื่องเขียนวาดไปเลย คือใช้พวกวงเวียน ครึ่งวงกลมจุดตำแหน่งต่างๆคร่าวๆแล้ววาดเลย เพราะเหมือนตอนนั้นค่าจากคอมจะมีปัญหาครับ
       ผมก็จำไม่ได้แล้วละว่าตอนแรกมันทำอย่างไง ทั้งๆที่ตอนนั้นมีคนสอนและผมวาดเองกับมือในวันที่ 10 ของการไปเรียนภาคสนาม คือผมได้ทำทั้ง 2 วิธีคือแบบคอม นั่งวาดโดยหาตำแหน่งพิกัดโดยนั่งไล่เส้นกราฟ กับวิธีแมนนวล โดยใช้ค่าจากที่จดมาใช้ ซึ่งสุดท้ายแผนที่ 3 แผ่นคือแผนที่กลุ่มย่อย แผนที่รวม1:500 และแผนที่รวม 1:1000 ก็มาเสร็จในตอนหลังจากกลับมาจากภาคสนามเพราะโดนไล่ไปแก้นู้นนี่นั้น ซึ่งในวันที่ 10 เพื่อนๆของผมก็ได้กลายเป็นพวกยอดมนุษย์ไม่นอนทั้งคืน ส่วนผมหลับไปตอนห้าทุ่ม(มั้ง) ตื่นมาอีกทีตี 4 ของวันกลับเสียแล้ว แต่ก็ยังเห็นนั่งทำกันอยู่ 5555

อันนี้ผมถ่ายมาตอนกำลังแก้ หลังจากกลับมาจากค่าย

ที่ชอบที่สุดในค่ายนี้คือตอนวาดเส้นระดับความสูงแผนที่รวมในพื้นที่รอยต่อของกลุ่มอื่นๆ พบว่ากลุ่มที่อยู่ตรงกลางโดยมีกลุ่มอื่นอีก 4 กลุ่มล้อมรอบ มีค่าความสูงที่แตกต่างจาก 4 กลุ่มรอบข้างโดยไม่ใกล้เลย ก็เป็นอะไรที่น่าประหลาดใจดีครับ 555555 (ไม่ใช่กลุ่มผมนะ กลุ่มผมอยู่มุมๆของแผนที่)  

     ก็เป็นประสบการณ์ที่ผมอาจจะไม่เจออีกแล้ว ในชีวิตของผมที่ต้องมานั่งวัดค่านั้นนู้นนี่ เพื่อมาวาดแผนที่ทำมือ ก็ถือเป็นประสบการณ์ชีวิตที่ดีของผมอีกหนึ่งเหตุการณ์ครับ แต่ใครจะไปรู้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร หรือผมอาจจะต้องมาทำอะไรแบบนี้ก็เป็นได้

สำหรับเรื่องราวในครั้งนี้ก็จบลงเพียงเท่านี้แหละครับ

                                                                             กลับสู่หน้าแรก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

โพสต์แนะนำ

เคล็ดลับ การอ่านหนังสือ 2

สวัสดีครับ จากครั้งที่แล้วผมได้นำเคล็ดลับที่ได้จากการอ่านหนังสือที่มีชื่อว่า "เคล็ดลับ เลิกทรมานกับการอ่านหนังสือ" นำมาสรุ...