ค้นหาบทความที่น่าสนใจ

วันอาทิตย์ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

เคล็ดลับ การอ่านหนังสือ 2

สวัสดีครับ จากครั้งที่แล้วผมได้นำเคล็ดลับที่ได้จากการอ่านหนังสือที่มีชื่อว่า "เคล็ดลับ เลิกทรมานกับการอ่านหนังสือ" นำมาสรุปเป็นข้อๆ ไปแล้วนะครับ   ซึ่งครั้งที่แล้วเป็นเรื่องการทำให้การอ่านหนังสือให้เป็นเรื่องสนุกครับ ครั้งนี้จะมาต่อจากครั้งที่แล้วครับ โดยครั้งนี้เป็นการสร้างแรงจูงใจในการอ่านหนังสือครับ ซึ่งผมสรุปไว้ดังต่อไปนี้ครับ

  1. เขียนเป้าหมายที่ตั้งไว้และวิธีการที่จะบรรลุเป้าหมาย (โดยเขียนตัวใหญ่ๆ แปะไว้ที่บริเวณฝาผนังที่สามารถเห็นได้อย่างชัดเจน) เพื่อสร้างแรงจูงใจในการอ่านหนังสือ
  2. คิดบวกในกรณีที่ทำผิดพลาด เช่น อ่านหนังสือได้ไม่เท่ากับเป้าหมายที่ตั้งไว้ หรือทำงานผิดพลาด หรือแม้แต่ทำข้อสอบไม่ได้ เป็นต้น โดยให้ระบายออกมาด้วยการตะโกน(ในกรณีที่สามารถทำได้) ว่า "เหตุผลที่จะไม่ทำพลาดอีก ทำได้แล้ว" อาทิเช่น ทำข้อสอบไม่ได้ให้ตะโกนว่า "ต่อไปนี้รู้แล้วว่าตอบว่าอะไร ทำได้แล้ว" ในกรณีที่ไม่สามารถตะโกนได้อาจจะพูดในใจหรือพูดออกมาเบาๆ เพื่อให้กำลังใจตัวเอง
  3. ใช้เกมการท่องจำทำให้การท่องจำเป็นเรื่องสนุก จะช่วยให้ประสิทธิภาพการจำของเราดีขึ้น เช่น เกมถามตอบที่ไว้เล่นกับเพื่อนๆ โดยกำหนดขอบเขตของเนื้อหาที่อ่านกับเพื่อนๆ แล้วนำมาถามตอบกัน ซึ่งเราอาจกำหนดกติกาเข้าไปเพื่อความสนุกในการเล่นเกม อย่างการถามคำถามให้วนกันถาม โดยให้คนหนึ่งถามแล้วคนอื่นตอบ คนที่ตอบได้จะได้รับคะแนนไป ใครที่ได้คะแนนมากที่สุดหรือคะแนนถึงคะแนนที่ตกลงกันไว้จะเป็นผู้ชนะไป เป็นต้น

วันเสาร์ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

เคล็ดลับ การอ่านหนังสือ

สวัสดีครับ ครั้งนี้ผมนำเคล็ดที่ได้จากการอ่านหนังสือที่ชื่อว่า "เคล็ดลับ เลิกทรมานกับการอ่านหนังสือ" มาฝากกันครับ เชื่อว่าหลายน่าจะมีปัญหาแบบเดียวกับผมนะ คือเจอหนังสือเล่มหนาแล้วเกิดไม่อยากอ่าน หรือ อ่านไประยะหนึ่งแล้วเกิดเบื่อเพราะไม่เข้าใจเนื้อหา หรือไม่มีแรงจูงใจในการอ่านในระยะเวลาที่ยาวนาน อะไรประมาณนี้นะครับ ซึ่งในตัวหนังสือเล่มนี้จะมีเคล็ดลับที่ทำให้เราสามารถอ่านหนังสือได้อย่างสนุกและมีประสิทธิภาพมาขึ้นครับ ในที่นี้จะขอกล่าวถึงการทำให้การอ่านหนังสืออย่างไรให้เป็นเรื่องสนุกนะ โดยผมสรุปประเด็นได้ดังนี้ครับ

  1. สร้างแบบทดสอบก่อนและหลังอ่าน โดยใช้เนื้อหาจากสิ่งที่อ่านวัดผล จะทำให้เราได้เห็นผลที่เป็นรูปธรรมในช่วงก่อนและหลังอ่านของเรา ช่วยสร้างแรงจูงใจในการอ่านให้แก่เราได้ครับ
  2. สร้างแรงจูงใจในการอ่านหนังสือโดยให้ผลตอบแทน เช่น เมื่ออ่านหนังสือได้ 20 นาที ให้กินขนม 10 วินาที เป็นของตอบแทน เป็นต้น จะทำให้เรามีแรงจูงใจในการอ่านหนังสือมากขึ้นครับ
  3. สร้างบรรยากาศสำหรับการอ่านหนังสือที่เหมาะกับตัวเรา เช่น บางคนมีสมาธิกับการอ่านหนังสือที่โต๊ะสะอาดมีอุปกรณ์เครื่องเขียนพร้อม(โต๊ะโล่งๆ ที่มีแต่อุปกรณ์เครื่องเขียน) หรือบางคนมีสมาธิกับการอ่านแบบที่โต๊ะดูรกไปด้วยกองหนังสือและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการอ่าน ซึ่งขึ้นอยู่กับแต่ละคนว่ารูปแบบไหนจะเหมาะกับแต่ละคนครับ (ประมาณว่าเป็นการสร้างฐานทัพสำหรับการอ่านหนังสือนั้นเองครับ)

วันอาทิตย์ที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

ตะบันน้ำ (Hydraulic Ram)

ตะบันน้ำ (Hydraulic Ram) คืออะไร

เป็นเครื่องมือที่สามารถนำน้ำจากแหล่งน้ำที่อยู่ในพื้นที่ต่ำให้ขึ้นไปยังพื้นที่สูงได้ โดยไม่ต้องใช้พลังงานอย่างไฟฟ้า น้ำมันหรือแรงงานคน เพื่อให้เครื่องมือทำงาน ซึ่งจะใช้หลักการของค้อนน้ำ (Water Hammer)

ค้อนน้ำ (Water Hammer) คืออะไร

ปรากฎการณ์ที่แรงดันน้ำเพิ่มขึ้นในท่อที่ระยะเวลาสั้นๆ เมื่อน้ำเคลื่อนที่ด้วยความเร็วมากพอ และหยุดเคลื่อนที่อย่างกะทันหันเนื่องจากมีการปิดกั้นการไหลในท่ออย่างรวดเร็ว เช่น น้ำไหลอยู่ในท่อ แล้วปิดวาล์วกะทันหัน เป็นต้น น้ำจะเกิดการอัดตัวที่บริเวณที่มีการปิดกั้นการไหล ซึ่งความเร็วน้ำนั้นมีพลังงานจลน์ การปิดกั้นการไหลอย่างทันทีทันใดทำให้พลังงานจลน์เปลี่ยนเป็นความดันขึ้น ซึ่งปรากฎการณ์นี้จะทำให้เกิดเสียงดังคล้ายค้อนตีกระทบกับวัตถุ

วันจันทร์ที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2561

เที่ยวตจว. (แกะเมล็ดหมาก)

            สวัสดีครับ  好久不见 (ไม่ได้เจอกันนาน) เลยนะครับ ครั้งสุดท้ายที่ผมลงบล็อกมันเมื่อไรกันนะ นานเหมือนกันเลยครับ ครั้งสุดท้ายน่าจะปีที่แล้วเลยละ ช่วงต้นถึงกลางปีนี้เป็นช่วงการเรียนเทอมสุดท้ายของผมครับ ผมรู้สึกว่างานเยอะกว่าเทอมก่อนๆเยอะ อย่างเช่น เรียน  รันโปรแกรม เขียนรายงานเป็นเล่มๆ  ทำสรุปพรีเซนต์ อะไรแบบนี้หลายๆวิชา 

            มันก็น่าใจหายเหมือนกัน ที่แปปเดียวก็เรียนจบแล้ว เพื่อนๆที่เรียนมาด้วยกันเริ่มๆ ไปหาสมัครงานกัน บางไปสัมภาษณ์งาน ซึ่งส่วนใหญ่ก็มีงานทำกันไปหมดแล้ว ส่วนผมก็คงต้องหางานกันต่อไป ผมก็เริ่มรู้สึกถึงความสำคัญของการเข้าสังคมนั้นเป็นสิ่งสำคัญ เพราะมันจะทำให้โอกาสในการหางานนั้นง่ายกว่า คล้ายๆกับการเรียนภาษาที่ควรจะมีกลุ่มเพื่อนที่ชอบภาษาเดียวกันกับเราไว้สำหรับการเรียนภาษาจะเป็นการง่ายกว่าการเรียนคนเดียวที่เราจะไม่รู้สิ่งที่เราผิด

ปลายฤดูฝนแล้วนิ !!
ที่มา :https://pixabay.com/th/

ช่วงครึ่งปีหลังมา ประมาณเดือนกรกฎาคม ผมกลับมาอยู่ที่บ้านญาติ เนื่องจากว่างงานพ่อผมจึงส่งผมมาช่วยปลูกต้นยาง คือบ้านญาติผมทำสวนยางกำลังปลูกต้นยางใหม่เพราะต้นยางเก่ามันแก่มากแล้ว จึงทำการทยอยโค่นต้นยางตั้งแต่ปีก่อน ปัญหาคือพอโค่นต้นยางและจ้างรถไถมาไถกับขุดหลุม,ร่อง พื้นที่จะกลายเป็นที่โล่งๆ ไม่มีอะไรคลุมดิน

  • ช่วงเดือนแรกที่ผมไปเก็บมังคุด (เสียดายที่ไม่ได้ถ่ายรูปไว้) เก็บผลไม้ในสวน เป็นช่วงฤดูแล้งต้องบอกพอไม่มีต้นไม้แดดมันส่องลงมาเต็มๆ แล้วแดดต่างจังหวัดแดดมันแผดเผาดีจริงๆ มันกลายเป็นแดดแรงส่องเต็มๆ เผาเต็มที่กันเลยทีเดียวครับ
  • ส่วนช่วงเดือนกันยายน เป็นช่วงฝนตก ตอนผมไปเดินบนดินๆ จะติดรองเท้าเยอะ เวลาก้าวขาเดินไปมา ขาจะหนักดิน (ผมใส่รองเท้าบูท มันจะติดใต้รองเท้าขึ้นยันข้างรองเท้า😂 )

วันอาทิตย์ที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2560

วันสุดท้ายของปี 2560

               สวัสดีครับ ช่วงสิ้นปีนี้ ตลอดช่วงสัปดาห์ท้ายของเดือนธันวาคมนี้ สภาพอากาศค่อนข้างแปรปรวนสุดๆเลยนะครับ ทั้งหนาวเป็นระลอก ฝนตก และอากาศร้อนด้วย ถือว่าครบเซตเลยที่เดียวครับในเดือนเดียว ซื่งมันก็ทำให้ผมไม่สบายแบบต่อเนื่องเลยครับ คือเริ่มป่วยตอนช่วงอากาศหนาว พอกำลังจะหายในช่วงอากาศเริ่มจะอุ่น ก็ดันมีฝนมาอีก(ช่วงที่มีพายุพัดมานั้นแหละ) 
               พอหลังจากฝนมา ความเย็นก็กลับมาอีกรอบ และทำให้กลับมามีอากาศที่หนาวอีกครั้ง ส่งผลทำให้ผมซึ่งกำลังจะหาย กลับป่วยอีกครั้ง (เป็นหวัดอีกรอบ) ซึ่งโรคหวัดบ้านผมก็ดันมาเป็นกันทั้งบ้านเลยครับ  -..-  ถือว่าเดือนนี้เป็นอะไรที่สภาพอากาศ และสภาพแวดล้อมรอบๆ ผม โหดมากเลยทีเดียวครับ (ช่วงต้นเดือนเพื่อนๆ ผมป่วยเป็นหวัดกันเยอะ สุดท้ายผมก็ไม่รอดจนได้ 555555)  

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ รูปไก่
ปีระกากำลังจะหมดปีแล้วนะ

               ยิ่งตอนไปสอบช่วงที่ผมเป็นหวัด เป็นอะไรที่โหดร้ายมาก อากาศหนาว แอร์ในห้องสอบก็เย็น เสื้อกันหนาวนี่เอาไม่อยู่ ผมนี่ทั้งนั่งสั่น ไอ จาม น้ำมูกไหล สนุกสนานกันเลยทีเดียวครับ สรุปคือเละเทะมากตอนนั้น รู้ตัวเลยว่าอาการไม่ดีเท่าไรนัก และหลังวันนั้นอีก 1 วันเป็นวันนำเสนอโครงงานเบื้องต้น หลังนำเสนอเสร็จผมจำได้ว่าอาจารย์บอกให้ผมกลับไปนอน 😅 😅

               ครัั้งก่อนผมทำบทความ เรื่อง"ฝึกตีปิงปองโต้กับกำแพง" ไป สำหรับครั้งนี้ผมก็ไม่มีอะไรจะพูดถึงเลยครับ เพราะป่วยแบบต่อเนื่องเกือบครึ่งเดือน(ประมาณเกือบสองอาทิตย์ได้แล้วมั้ง) เห็นจะได้ ผมคงต้องออกกำลังกายแบบพี่ตูนมั้งแล้วละ ออกไปวิ่ง ออกไปเดิน ขี่จักรยานมั้ง ดีกว่า นอนพัก ดื่มน้ำเยอะ และกินยาไปวันๆ 😅😉 ไหนๆก็ไม่มีอะไรเป็นพิเศษแล้ว ผมก็ขอมีสาระอะไรเสียหน่อยแล้วกันเนอะ ลิงก์ด้านล่างนี้จะเป็นปีชงของปีหน้าและวิธีแก้ปีชง ครับซึ่งก็เป็นความเชื่อของแต่ละบุคคลนะครับ 😇😉 (นี่เป็นลิงก์ ปีชง 2561และวิธีแก้ปีชง ครับ)

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ dog
ปีหน้าก็ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ

เนื่องด้วยวันนี้ก็เป็นวันสุดท้ายของปี 2560 ปีระกา หรือปีไก่แล้วเนอะ และกำลังจะเปลี่ยนเป็นศักราชใหม่ ปี2561 ปีจอหรือปีหมา ในวันพรุ่งนี้แล้ว ผมก็ขอขอบคุณสำหรับทุกท่านการเข้ามาอ่านบทความในบล็อกนี้ ในปีนี้ครับ และขอให้ทุกๆท่านมีความสุขกับปีใหม่ที่กำลังจะมาถึงนะครับ ส่วนใครที่ไปเที่ยวในวันหยุด ก็ขอให้เดินทางปลอดภัย สุขภาพแข็งแรงทุกท่าน เฮงๆครับ  สวัสดีปีใหม่ครับ      

วันพุธที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

ฝึกตีปิงปองโต้กับกำแพง

สวัสดีครับ

              ครัั้งก่อนนู้น ผมได้กล่าวถึงการ "ฝึกเดาะปิงปอง" ไป ซึ่งเป็นพื้นฐานของการฝึกปิงปองครับ ครั้งนี้จะกล่าวถึงการ ฝึกตีปิงปองกับกำแพงครับ การฝึกนี้ก็เป็นพื้นฐานของการเล่นปิงปองเหมือนกันครับ
              ผมว่าสำหรับมือใหม่แล้ว มันเป็นพื้นฐานที่ดีครับ อย่างตอนที่ผมเล่นปิงปองตอนเริ่มแรกนั้น หลังจากฝึกเดาะเริ่มคล้องมือแล้ว การฝึกอย่างที่ 2 ที่ผมเจอตอนเรียนมัธยม คือการฝึกตีกับกำแพง อย่างตอนเรียนมหา'ลัยก็เจอเหมือนกันแต่ต่างกันที่ ตอนมัธยมโรงเรียนพื้นเป็นกระเบื้อง ส่วนมหา'ลัย ที่กำแพงมันเป็นรอยต่อพื้นปูน เวลาเจอพื้นไม่เรียบลูกจะเด้งแล้วตียาก

จับไม้แบบแบ็คแฮนด์
การตีโต้กับกำแพง คืออะไร?
            การตีโต้กับกำแพง เป็นหนึ่งในพื้นฐานของการเรียนปิงปองที่ตอนเรียนปิงปองอาจารย์ผู้สอนเขาจะสั่งให้เราตีโต้กับกำแพง หลังจากจากการเดาะลูกปิงปองในช่วงแรกๆที่เรียนปิงปอง มีขั้นตอนการฝึกอยู่หลายขั้นตอนด้วยกัน ดังนี้

วันศุกร์ที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2560

รวมลิงค์เรียนภาษาจีนด้วยตนเอง

               สวัสดีครับ ลมหนาวใกล้เข้ามาแล้วนะ ครับสังเกตได้จากเมื่อต้นเดือนตุลาคมนี้ ถึงจะเป็นช่วงปลายหน้าฝนของปีนี้ แต่เริ่มมีลมหนาวพัดมาแล้ว ถึงจะมีแค่บางวัน เพราะส่วนใหญ่น่าจะเย็นจากฝนตกเสียมากกว่า แต่อย่างไรเสีย ตอนนี้ก็ยังมีฝนตกตลอด-..- ไปไหนก็ต้องพกร่มเตรียมไว้เสมอๆนะครับ 

               ช่วงนี้ผมเริ่มเรียนภาษาที่สาม โดยที่ภาษาที่สองยังไม่แข็งแรงเท่าไรนัก (ภาษาอังกฤษ) คิดว่าไม่ค่อยมีผลเท่าไรนัก เพราะเรียนแบบ แปลจีน ↔ ไทย เลย ก่อนหน้าเรียนแบบแปลจีน↔ อังกฤษ ↔ ไทย  ทำให้ได้คำศัพท์ใหม่ภาษาอังกฤษไปด้วยในตัว แต่เวลาแปลจะช้าหน่อยเนื่องจากต้องเสียเวลาแปล แต่ของการเรียนภาษาที่สามสำหรับผม คือ การสะกดคำในภาษาอังกฤษกับจีนจะแตกต่างกัน เวลาผมเขียนภาษาอังกฤษ จะชอบติดการสะกดคำแบบภาษาจีน เลยจะต้องนั่งนึกคำภาษาอังกฤษพักหนึ่ง
             
               มาพูดภาษาที่สามที่เรียนผมซะหน่อย ภาษาที่ผมเรียนคือ ภาษาจีน (汉语) โดยการเรียนสมัยนี้จะเรียน pinyin เขียนตัวย่อ มันจะเขียนง่ายกว่าเขียนตัวเต็ม แต่สำหรับมือใหม่อย่างผมบางตัวถือว่ายาก

โพสต์แนะนำ

เคล็ดลับ การอ่านหนังสือ 2

สวัสดีครับ จากครั้งที่แล้วผมได้นำเคล็ดลับที่ได้จากการอ่านหนังสือที่มีชื่อว่า "เคล็ดลับ เลิกทรมานกับการอ่านหนังสือ" นำมาสรุ...